“ เอไอเอสมุ่งมั่นที่จะปรับเปลี่ยนองค์กรให้เป็น Cognitive Tech-Co ไปพร้อม ๆ กับ การขับเคลื่อนให้ทุกคนในสังคมไทยก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัลควบคู่ไปกับ การปกป้องสิ่งแวดล้อม ”


ในปี 2565 เป็นช่วงที่ประเทศไทยฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และมีแนวโน้มที่จะกลับสู่สภาวะปกติมากขึ้น แต่ยังมีความเปราะบางจากความขัดความแย้งระหว่างประเทศที่อาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจใช้เวลานาน และยิ่งทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นประเทศไทยยังต้องพร้อมรับมือกับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่นับวันจะยิ่งแปรปรวนและรุนแรงมากขึ้น ดังนั้น การฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจจำเป็นต้องอาศัยการสร้างเศรษฐกิจและสังคมในรูปแบบที่ดีกว่าเดิมเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังด้วยการสร้างสังคมที่มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

เอไอเอสเล็งเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างโอกาสให้ผู้คนเข้าถึงแหล่งความรู้ที่หลากหลาย เราจึงพยายามใช้จุดแข็งในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลไลฟ์สร้างการเติบโตร่วมกันของคนและสิ่งแวดล้อมในโลกดิจิทัลอย่างยั่งยืน ในปีที่ผ่านมาเราได้ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจและเป้าหมายการดำเนินการด้านความยั่งยืนให้ท้าทายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้บริษัทมุ่งพัฒนาธุรกิจให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย

ในขณะที่เอไอเอสมุ่งมั่นที่จะปรับเปลี่ยนองค์กรให้เป็น “Cognitive Tech-Co” จากการให้บริการดิจิทัลและการสร้างนวัตกรรมที่หลากหลายเพื่อแสวงหาแหล่งรายได้ใหม่ ๆ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และนำไปสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ในระยะยาว เราก็คาดหวังด้วยว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้จะช่วยนำพาให้ทุกคนในสังคมไทยก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัลที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน โดยใช้กรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืน 3 ด้านเป็นเข็มทิศในการสานต่อวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของเรา ซึ่งประกอบไปด้วยการขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ การสร้างการเข้าถึงดิจิทัลเพื่อสังคม และการยืนหยัดเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยตลอดปี 2565 ได้มีการบูรณาการการดำเนินงานและมีพัฒนาการที่สำคัญ ดังนี้

ขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ

เอไอเอสมุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมเพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพและการเติบโตของธุรกิจผ่านความร่วมมือกับคู่ค้า ทั้งในด้านการขยายโครงข่าย 5G โดยปัจจุบันครอบคลุมร้อยละ 85 ของประชากรในประเทศ การสร้างสินค้าและบริการดิจิทัลที่หลากหลาย ทั้งสำหรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้าองค์กร อาทิ นวัตกรรมระบบขนส่งด้วยยานยนต์ไร้คนขับที่ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ไปจนถึงการลงทุนในธุรกิจ Startup เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่เป็นศูนย์กลางส่งเสริมโซลูชั่น และบริการแบบครบวงจร ทั้งนี้ โครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ทำให้เอไอเอสส่งมอบบริการดิจิทัลที่มีประโยชน์หลากหลายและปลอดภัย ต้องอาศัยความแข็งแกร่งของระบบการป้องกันภัยไซเบอร์และการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า โดยในปีที่ผ่านมา เรายกระดับมาตรฐานความปลอดภัยไซเบอร์ โดยการริเริ่มนำหลักการ “Zero Trust Security” ที่เสริมความแข็งแกร่งด้วยการใช้ระบบดิจิทัลมาตรวจสอบความปลอดภัยเพื่อลดความผิดพลาดการทำงานของมนุษย์ และปรับปรุงกระบวนการการเข้าถึงข้อมูลสำคัญขององค์กร นอกจากนั้น บุคลากรที่มีคุณภาพก็เป็นอีกปัจจัยที่จะร่วมขับเคลื่อนนวัตกรรมดิจิทัลไปกับองค์กร เราจึงมุ่งมั่นสร้างความรู้และทักษะด้านดิจิทัลเพื่อให้บุคลากรของเอไอเอสปรับตัวตามกลยุทธ์ใหม่ และ กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่ออนาคตของบริษัท รวมทั้ง เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของเศรษฐกิจยุคดิจิทัลในภาพรวมด้วย

สร้างการเข้าถึงดิจิทัลให้ทุกคนในสังคม

เอไอเอสเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานต่าง ๆ จึงเป็นที่มาของโครงการ “ภารกิจคิดเผื่อ เพื่อคนไทย” โดยใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้ทางออนไลน์ “LearnDi” เพื่อสร้างโอกาสที่เท่าเทียม และหลากหลายให้บุคลากรในระบบการศึกษาไทยได้พัฒนาทักษะทางด้านดิจิทัลใหม่ ๆ และเข้าถึงองค์ความรู้ต่าง ๆ ได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา นอกจากนั้น เอไอเอสตระหนักดีว่าการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่มากขึ้น มาพร้อมกับความเสี่ยงจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต จึงส่งเสริมทักษะความฉลาดทางดิจิทัลให้กับผู้ใช้งานผ่านหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ที่เป็นบทเรียนพร้อมแบบทดสอบออนไลน์ที่เข้าถึงผู้เรียน 169,930 ราย เพื่อให้ผู้ใช้งานมีความรู้ และสร้างความตระหนักถึงการรับมือกับภัยไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ยืนหยัดเพื่อสิ่งแวดล้อม

เราตระหนักถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ ทั่วโลก ที่ได้ช่วยกันหาทางรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เราจึงปรับเป้าหมายให้ท้าทายมากขึ้นและสอดคล้องกับพัฒนาการสำคัญทั้งในระดับระหว่างประเทศและในประเทศ โดยมุ่งมั่นลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ให้สอดคล้องกับมาตรฐาน Science Based Targets initiative (SBTi) ในปีที่ผ่านมา เราใช้เทคโนโลยีและวางแผนจัดสรรการใช้งานอุปกรณ์โครงข่ายให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานควบคู่ไปกับการส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกด้วยการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญด้านพลังงานสะอาด ซึ่งในปีที่ผ่านมาเราติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นได้ 3,190 แห่ง และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 25,508 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ในด้านการจัดการขยะ เรามุ่งสู่เป้าหมายการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์โดยปราศจากการฝังกลบ โดยจัดการขยะที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจอย่างถูกวิธี และชักชวนให้คนไทยมีความตระหนักรู้เรื่องการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ผ่านโครงการคนไทยไร้ e-waste

เอไอเอสมุ่งมั่นพร้อมคำสัญญาที่จะเดินหน้าใช้จุดแข็งในฐานะ Cognitive Tech-Co ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างรอบด้านเพื่อสร้างคุณค่าด้านธุรกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลักบรรษัทภิบาล รวมถึงการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางขององค์การสหประชาชาติ เพื่อเป็นแบบอย่างที่โดดเด่นในกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและส่งเสริมการพัฒนาในทุกภาคส่วนให้เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน


กานต์ ตระกูลฮุน

ประธานกรรมการบริษัท